ชอบหน้านี้?

ข่าวราชการ, รัฐวิสาหกิจ - จังหวัดลำพูน มุ่งขับเคลื่อนโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับจังหวัดลำพูน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ข่าวประชาสัมพันธ์ - Press Release


ข่าวราชการ, รัฐวิสาหกิจ - จังหวัดลำพูน มุ่งขับเคลื่อนโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับจังหวัดลำพูน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
ข่าวราชการ, รัฐวิสาหกิจ - จังหวัดลำพูน มุ่งขับเคลื่อนโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับจังหวัดลำพูน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
17.7K เปิดอ่าน

ฟังข่าวนี้

ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 จังหวัดลำพูน จัดการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จังหวัดลำพูน ครั้งที่ 1/2566 โดยมีนายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธาน ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ POC ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดลำพูน

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จังหวัดลำพูน ครั้งที่ 1/2566 ร่วมกับคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ ประกอบด้วย หน่วยงานส่วนกลาง หน่วยงานระดับจังหวัด ได้แก่ หน่วยหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานภาคเอกชน โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานลำพูน เป็นเลขาคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับจังหวัดลำพูน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 และปัญหาอุปสรรคในการดำเนินโครงการฯ พร้อมทั้งร่วมกันพิจารณาปฏิทินการดำเนินโครงการฯ คัดเลือกหลักสูตรและลงมติเห็นชอบการฝึกอบรม รวมถึงการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ แก่เด็กนักเรียนผู้เข้าร่วมโครงการฯ

ในการพัฒนานักเรียนที่จบการศึกษาภาคบังคับที่ไม่ได้เรียนต่อของจังหวัดลำพูน ให้เข้ารับการฝึกอบรมเพื่อให้มีทักษะด้านอาชีพในการเข้าสู่ตลาดแรงงานในฐานะ “แรงงานมีฝีมือ” นำไปสู่การมีอาชีพ เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป

ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้จัดทำโดย สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานลำพูน ซึ่งเป็นสมาชิกเว็บไซต์ของเรา ความคิดเห็นของผู้เขียนและเนื้อหาที่แบ่งปันในหน้านี้ถือเป็นความคิดเห็นของตนเอง และอาจไม่จำเป็นต้องแสดงถึงมุมมองของ นิวส์ไวร์ ประเทศไทย


แสดงความคิดเห็น :