- โดย พีอาร์ นิวส์ไวร์
- 19 เม.ย. 68
ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - CISION PR Newswire
CGTN เผยแพร่บทความเกี่ยวกับการเยือนประเทศกัมพูชาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ที่ส่งเสริมมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างจีนและกัมพูชา อันเป็นประโยชน์ต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศ รวมถึงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมซึ่งสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างจีนและกัมพูชา
ปักกิ่ง, 18 เมษายน 2568 /PRNewswire/ -- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะเข้าพบกษัตริย์นโรดม สีหมุนีแห่งกัมพูชาในระหว่างการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการว่า จีนและกัมพูชาสร้างแบบจำลองความเท่าเทียม ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ตลอดจนความร่วมมืออันเป็นประโยชน์ร่วมกันระหว่างประเทศที่มีขนาดต่างกัน
สีเพิ่มเติมว่าเขาเชื่อในการพัฒนาของจีนอันจะนำมาซึ่งโอกาสมากมายแก่ประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงกัมพูชา โดยตั้งข้อสังเกตว่าการสร้างชุมชนจีน-กัมพูชาที่มีอนาคตร่วมกันเป็นทางเลือกของประวัติศาสตร์และประชาชน
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและกัมพูชาผ่านบททดสอบของการเปลี่ยนแปลงระดับโลกและยังคงแข็งแกร่งมาโดยตลอด ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้รับการหล่อหลอมและหล่อเลี้ยงโดยผู้นำรุ่นเก่าของทั้งสองประเทศ
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ระหว่างการเยือนจีนของ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาในขณะนั้น ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะพัฒนา "กรอบความร่วมมือเพชรหกเหลี่ยม" อันประกอบด้วย 6 ด้านหลัก ได้แก่ ความร่วมมือทางการเมือง กำลังและคุณภาพการผลิต การเกษตร พลังงาน ความมั่นคง และการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน
ในเดือนกันยายน 2566 ฮุน มาเนตเลือกจีนเป็นจุดหมายปลายทางอย่างเป็นทางการแห่งแรกในต่างประเทศหลังจากเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ระหว่างการพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ฮุน มาเนต ให้คำมั่นว่าจะสานต่อมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างกัมพูชาและจีนต่อไป
ในเดือนพฤษภาคม 2567 รัฐบาลกัมพูชาได้ตั้งชื่อถนนสายหนึ่งในกรุงพนมเปญว่า "Xi Jinping Boulevard" เพื่อเป็นเกียรติแก่การมีส่วนสนับสนุนประวัติศาสตร์ของผู้นำจีนต่อการพัฒนาประเทศ ในพิธีตั้งชื่อ ฮุน มาเนตเน้นย้ำว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีได้เข้าสู่ช่วงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ภายใต้การนำและความพยายามร่วมกันของสี จิ้นผิงและผู้นำกัมพูชา
ผลลัพธ์ด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าอันงอกเงย
ประการแรก การค้าสองทางขยายตัวอย่างน่าทึ่งจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และข้อตกลงการค้าเสรีจีน-กัมพูชา (FTA) จีนเป็นพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาถึง 13 ปีติดต่อกัน และในปี 2567 การค้าสองทางมีมูลค่า 1.7830 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.7 เปอร์เซ็นต์เทียบรายปี
การอนุมัติผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและการประมงคุณภาพสูงของกัมพูชา อาทิ ข้าว กล้วย มะม่วง ลำไย มะพร้าว และปลาเผาะเข้าสู่ตลาดจีน ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนได้อิ่มเอมเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มรายได้แก่ชาวกัมพูชาอีกด้วย
ประการที่สอง ความร่วมมือด้านการลงทุนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จีนเป็นแหล่งการลงทุนต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาถึง 13 ปีติดต่อกัน โดยมีการลงทุนครอบคลุมหลายภาคส่วน อาทิ การขนส่ง ไฟฟ้า การเกษตร การผลิต การท่องเที่ยว เขตเศรษฐกิจพิเศษ ตลอดจนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งครอบคลุมอย่างกว้างขวาง ในปริมาณมาก อีกทั้งยังมีผลงานที่แข็งแกร่ง
ผลสำรวจล่าสุดของ CGTN เปิดเผยว่า ผู้ตอบแบบสอบถามชาวกัมพูชาประมาณ 95.4 เปอร์เซ็นต์มีทัศนคติเชิงบวกต่อบริษัทจีนที่ลงทุนหรือดำเนินการในกัมพูชา และ 95 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่าจีนมีส่วนสนับสนุนเชิงบวกต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโลก
การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีนและกัมพูชา
นอกจากความร่วมมือทางการเมืองและเศรษฐกิจแล้ว ทั้งสองประเทศยังเป็นตัวอย่างในการดำเนินการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ซึ่งไม่เพียงแต่เสริมสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันเท่านั้น แต่ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นอีกด้วย
การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนจีนและกัมพูชาซึ่งเป็นเสาหลักสำคัญของมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างจีนและกัมพูชาได้รับการส่งเสริมจากโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนจีนและกัมพูชา ปี 2567
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โปรแกรมความร่วมมือทางการแพทย์ อาทิ "Love Heart Journey", "Bright Journey" และ "Smile Journey" มอบบริการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพแก่ประชากรระดับรากหญ้าในจังหวัดและเมืองต่าง ๆ ของกัมพูชากว่า 20 แห่ง
ยิ่งไปกว่านั้น สถาบันขงจื๊อได้จัดหลักสูตรภาษาจีนฟรีแก่นักเรียนชาวกัมพูชากว่า 100,000 คน นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในกัมพูชาเมื่อปี 2552 ในฐานะสะพานเชื่อมทางวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ
คาดว่าการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศจะขยายตัวต่อไปภายใต้การนำของ Global Civilization Initiative ที่จีนเสนอ ซึ่งจะมอบประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่วัฒนธรรม เยาวชน สื่อมวลชน องค์กรคลังสมอง การท่องเที่ยว และเทคโนโลยี ไปจนถึงการดูแลสุขภาพและการบูรณะโบราณวัตถุทางวัฒนธรรม
"เราควรมีการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกันบ่อยขึ้น เราควรรักษาความสามัคคีและความเป็นปึกแผ่น ควรมีการเจรจาทางวัฒนธรรมมากขึ้น เพิ่มการแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการบริหารรัฐ ขยายรูปแบบความร่วมมืออันหลากหลายในด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนเยาวชน ตลอดจนการปกป้องและฟื้นฟูมรดกทางวัฒนธรรม รวมถึงส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างประชาชน" สีกล่าวในบทความซึ่งลงนามก่อนเดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ
https://news.cgtn.com/news/2025-04-17/Head-of-state-diplomacy-promotes-China-Cambodia-ironclad-friendship--1CE47UnGmt2/p.html
แสดงความคิดเห็น :