- โดย พีอาร์ นิวส์ไวร์
- 17 เม.ย. 68
ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - CISION PR Newswire
กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย, 15 เม.ย. 2568 /PRNewswire/ -- JETOUR DASHING เปิดตัวในประเทศมาเลเซีย โดยผสมผสานความสวยงามจากดีไซน์ล้ำสมัยเข้ากับสมรรถนะอันทรงพลัง มุ่งมอบประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่ให้กับผู้บริโภคในประเทศ การเปิดตัวครั้งนี้ยังเป็นอีกก้าวสำคัญที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์การขยายตลาดระดับโลกของ JETOUR
นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2561 JETOUR ได้กลายเป็นผู้พัฒนานวัตกรรมแห่งวงการยานยนต์ ด้วยโซลูชัน "Travel+" ที่ไม่เหมือนอื่นใด ซึ่งเน้นไลฟ์สไตล์การเดินทางและขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ปัจจุบันมีการจัดจำหน่ายในกว่า 65 ประเทศ และมีศูนย์การขายและศูนย์บริการมากกว่า 2,000 แห่งทั่วโลก
บทบาทของมาเลเซียในฐานะศูนย์กลางการขนส่งเชิงกลยุทธ์ที่เชื่อมโยงตลาดอาเซียน ตะวันออกกลาง และโอเชียเนีย สอดคล้องอย่างเหมาะเจาะกับเป้าหมายการขยายตลาดทั่วโลกของ JETOUR โดยโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือและระบบคมนาคมที่ล้ำหน้าของประเทศมอบข้อได้เปรียบที่สำคัญต่อการส่งออกรถยนต์และการเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน
คุณ Ke Chuandeng รองประธานของ JETOUR Auto กล่าวว่า "มาเลเซียเป็นตลาดที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์หลักของ JETOUR ที่เปี่ยมด้วยศักยภาพ JETOUR มุ่งมั่นที่จะสร้างแบรนด์ในมาเลเซียร่วมกับผู้ใช้งานและพันธมิตรในท้องถิ่น"
ในมาเลเซีย ความต้องการรถ SUV คุณภาพสูงสำหรับพื้นที่เมืองกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง การเปิดตัว JETOUR DASHING จึงออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความคาดหวังของลูกค้าอย่างตรงจุด
JETOUR DASHING โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกสุดล้ำ สะท้อนความเป็นแฟชั่นที่ทันสมัยด้วยเส้นสายโค้งมนที่ลื่นไหล มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5T มือจับประตูแบบซ่อน ระบบลำโพงอัจฉริยะ ระบบกรองอากาศในห้องโดยสารมาตรฐาน CN95 เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร และระบบช่วยจอดรอบคันแบบ 360° มอบทั้งสมรรถนะที่เร้าใจ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยที่เหนือระดับ นอกจากนี้ ด้วยขนาดตัวถัง 4590 มม. × 1900 มม. × 1685 มม. รถรุ่น DASHING ยังมีความได้เปรียบในกลุ่มรถ SUV อย่างชัดเจน
การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในแผนการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของ JETOUR ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สะท้อนถึงความสำเร็จในการผสานนวัตกรรมการผลิตอัจฉริยะของ JETOUR เข้ากับความต้องการของตลาดในภูมิภาคได้อย่างลงตัว ทั้งนี้ เพื่อวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโต JETOUR จึงดำเนินการลงทุนอย่างครอบคลุม ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานการผลิตในประเทศ ความร่วมมือด้านเทคโนโลยี ศักยภาพการวิจัยและพัฒนาในท้องถิ่น และการเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายผู้แทนจำหน่าย
การก่อสร้างโรงงานประกอบชิ้นส่วนในประเทศมาเลเซียได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มสายการผลิตได้ภายในครึ่งแรกของปีนี้ โรงงานแห่งนี้ในมาเลเซียได้รับการวางตำแหน่งให้เป็นศูนย์กลางการผลิตหลักในเครือข่ายการผลิตระดับโลกของ JETOUR และจะกลายเป็นฐานการส่งออกรถยนต์สู่ตลาดอาเซียน ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการขยายตัวของแบรนด์ในเวทีโลก
ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาในประเทศแบบครบวงจรทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรม JETOUR ยืนยันความมุ่งมั่นต่อการเติบโตในตลาดมาเลเซีย ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศโดยเฉพาะ การดำเนินการเช่นนี้ยังเสริมบทบาทของมาเลเซียในฐานะกลจักรขับเคลื่อนหลักกลยุทธ์การเติบโตระดับโลกของ JETOUR พร้อมยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับการดำเนินงานของอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับนานาชาติ
แสดงความคิดเห็น :