พีอาร์ นิวส์ไวร์ - Tata Communications Vayu ปฏิวัติระบบคลาวด์เพื่อองค์กรอัจฉริยะ

มุมไบ, อินเดีย, 21 มีนาคม 2568 /PRNewswire/ -- ในวันนี้ Tata Communications (NSE: TATACOMM) (BSE: 500483) ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร และผู้ให้บริการคลาวด์ส่วนบุคคลรายสำคัญ ได้ประกาศเปิดตัว Tata Communications Vayu ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม Cloud Fabric รุ่นใหม่ที่ปฏิวัติระบบไอทีขององค์กร ด้วยสถาปัตยกรรมแบบครบวงจรในหนึ่งเดียวและออกแบบตามเป้าหมายเฉพาะ ทำให้สามารถจัดการกับปัญหาต้นทุนคลาวด์ที่เพิ่มสูงขึ้น ความซับซ้อนของมัลติคลาวด์ และความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมศักยภาพให้ธุรกิจสามารถก้าวเข้าสู่ยุคองค์กรอัจฉริยะ (Intelligent Enterprise) ได้อย่างราบรื่น

ฟีเจอร์หลัก

• ครบวงจรในหนึ่งเดียวและคุ้มค่าต่อต้นทุน: บูรณาการ IaaS, PaaS, AI, Security และ Connectivity และช่วยลดต้นทุนระบบคลาวด์ลงได้ถึง 30%
• ขับเคลื่อนด้วย AI และขยายขีดความสามารถได้: ด้วย NVIDIA GPUs แบบ on-demand, AI Studio และระบบอัตโนมัติที่ช่วยเร่งการปรับใช้ AI พร้อมลดต้นทุน
• มัลติคลาวด์และ DevOps ที่เรียบง่าย: ไม่ขึ้นกับผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่ง พร้อมมีเครื่องมือ DevOps ในตัว รวมทั้งการจัดการ API และไมโครเซอร์วิส
• มีความปลอดภัยและสอดคล้องตามกฎระเบียบ: ใช้กรอบการทำงาน Zero-Trust การเข้ารหัสข้อมูล และสอดคล้องเป็นไปตามกฎระเบียบ DPDP ปี 2568, RBI, SEBI, IRDAI, MeitY
• โซลูชันเฉพาะอุตสาหกรรม: สามารถปรับแต่งได้เพื่อให้เหมาะสมกับภาครัฐ การเงิน และธุรกิจค้าปลีก พร้อมรักษาสมดุลให้คลาวด์โมเดลต่าง ๆ
• ยั่งยืนและพร้อมสำหรับอนาคต: คลาวด์ที่เป็นกลางทางคาร์บอน ศูนย์ข้อมูลที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีแผนใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรง

ออกแบบเพื่อให้มีความสะดวกง่ายดาย ควบคุมได้ และพร้อมสำหรับอนาคต สถาปัตยกรรม Cloud Fabric บูรณาการ IaaS, PaaS, แพลตฟอร์ม AI, Security, Cloud Connectivity และบริการระดับมืออาชีพมากมายไว้ในระบบนิเวศอัจฉริยะระบบเดียวได้อย่างราบรื่น โดยสามารถช่วยขจัดความซับซ้อนในการจัดการ ลดต้นทุนการดำเนินงาน และรับรองได้ว่าองค์กรจะสามารถขยายระบบได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ถูกผูกมัดกับผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่ง ด้วยโมเดลการคิดราคาอย่างโปร่งใส ระบบอัตโนมัติด้าน FinOps ในตัว และความยืดหยุ่นของมัลติคลาวด์ จึงทำให้สามารถประหยัดต้นทุนได้สูงสุด 30% พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเวิร์กโหลดได้สูงสุด นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ Tata Communications Vayu ช่วยลดต้นทุนลงได้ 15-25% โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดึงข้อมูลออก และไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง

ขณะที่องค์กรต่าง ๆ เร่งการนำปัญญาประดิษฐ์ใช้ดำเนินงาน Tata Communications Vayu AI Cloud ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง NVIDIA GPUs ที่มีประสิทธิภาพสูงได้แบบ on-demand เพื่อช่วยลดต้นทุนด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีมูลค่าสูง และช่วยให้สามารถฝึกโมเดล AI ปรับแต่ง และนำไปใช้งานได้อย่างราบรื่นและสามารถขยายขนาดได้ นอกจากนี้ ยังมี AI Studio ที่รวมถึง AI Workbench, Model Garden และกรอบทำงาน AI ที่มีความรับผิดชอบ เพื่อเร่งให้เกิดการสร้างนวัตกรรมได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการ Generative AI และ AIOps เพื่อให้กระบวนการทำงานเป็นอัตโนมัติและเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจติดตามอัจฉริยะ พร้อมด้วยเครื่องมือ DevOps ที่ใช้ AI และแพลตฟอร์มการฝึกขั้นสูง ที่เสริมศักยภาพองค์กรให้สามารถใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความซับซ้อนลง และควบคุมต้นทุนได้

บริการ PaaS ของ Tata Communications Vayu ยังช่วยให้การปรับใช้งานแอปพลิเคชันเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น ด้วยการประมวลผลแบบไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ (serverless computing) การปรับขนาดขนาดอัตโนมัติ และฐานข้อมูลที่มีการจัดการ นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม AI/ML ยังช่วยให้กระบวนการฝึกและปรับใช้โมเดลคล่องตัวขึ้น อีกทั้งยังมี ระบบจัดการ API ในตัว สถาปัตยกรรมไมโครเซอร์วิส และเครื่องมือ DevOps แบบบูรณาการ เพื่อทำให้กระบวนการทำงานเป็นอัตโนมัติ ส่งผลให้องค์กรสร้างนวัตกรรมได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรับภาระด้านการจัดการโครงสร้างพื้นฐาน

Tata Communications Vayu มีความแตกต่างจากโซลูชันคลาวด์แบบเดิมที่ทำให้ต้องจัดการผู้ให้บริการและแพลตฟอร์มต่าง ๆ เนื่องจาก Tata Communications Vayu มอบระบบนิเวศคลาวด์ที่บูรณาการแบบครบวงจรโดยครอบคลุมการประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์ ระบบความปลอดภัย และการเชื่อมต่อคลาวด์ ไม่ว่าองค์กรจะต้องการเครื่องเสมือน (virtual machine) ประสิทธิภาพสูง ระบบจัดเก็บข้อมูลที่ขยายขนาดได้ หรือระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI โซลูชันนี้ก็สามารถมอบแพลตฟอร์มเพื่อสร้าง ปรับใช้ และจัดการเวิร์กโหลดได้อย่างราบรื่น

Tata Communications เข้าใจว่าธุรกิจแต่ละแห่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงได้ร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ เพื่อออกแบบกลยุทธ์ระบบคลาวด์ที่ตรงตามวัตถุประสงค์เฉพาะ โดยรักษาสมดุลระหว่างการใช้งานระบบคลาวด์สาธารณะ แบบส่วนตัว และติดตั้งภายในองค์กร (on-premises) ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ บริการทางการเงิน หรือธุรกิจค้าปลีก Tata Communications Vayu ช่วยรับรองได้ว่าโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์มีความสอดคล้องกับข้อกำหนดเฉพาะของอุตสาหกรรมและเป้าหมายการเติบโตในระยะยาว

ทั้งนี้ สถาปัตยกรรมดังกล่าวยังช่วยรับประกันว่าจะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างราบรื่นในทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นระบบภายในองค์กร บนคลาวด์ หรือที่เอดจ์คอมพิวติ้ง โดยที่ยังคงรักษาความสมบูรณ์ของข้อมูลไว้ได้ตลอดวงจรการใช้งาน ระบบนี้ยังมาพร้อมกับการควบคุมการเข้าถึงอย่างแม่นยำ การปิดบังข้อมูลเพื่อให้เป็นนิรนาม (data masking) การบริหารจัดการความยินยอมของผู้ใช้ และการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล กรอบการทำงานที่ปกป้องข้อมูลละเอียดอ่อนขององค์กรอย่างเข้มงวด เพื่อให้ธุรกิจต่าง ๆ วางใจได้ว่าข้อมูลจะมีความปลอดภัย

นอกจากนี้ Tata Communications Vayu ยังใช้หลักการรักษาความปลอดภัยแบบ Zero Trust พร้อมทั้งเสริมด้วยระบบระบุตัวตนและควบคุมการเข้าถึงขั้นสูง และเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่สำคัญ รวมถึงระเบียบคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดิจิทัล (DPDP) ปี 2568 ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อินเดีย (SEBI) คณะกรรมการกำกับและพัฒนาธุรกิจประกันภัยอินเดีย (IRDAI) กระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ของอินเดีย องค์กรจึงสามารถดำเนินงานได้อย่างมั่นใจ เนื่องจากข้อมูลของพวกเขาจะถูกเข้ารหัสทั้งขณะจัดเก็บ (at rest) และขณะส่งผ่านเครือข่าย ทำให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา

ทั้งนี้ ในยุคที่ความยั่งยืนเป็นสิ่งจำเป็นทางธุรกิจ Tata Communications Vayu จึงบุกเบิกนำเสนอโซลูชันคลาวด์ที่เป็นกลางทางคาร์บอน และศูนย์ข้อมูลที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวเทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการความร้อนสำหรับการประมวลผลสมรรถนะสูง เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) พร้อมทั้งได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพของระบบคลาวด์ที่เหนือกว่า

A.S. Lakshminarayanan กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tata Communications กล่าวว่า "เมื่อยุคดิจิทัลก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ความต้องการโซลูชันคลาวด์และ AI สำหรับองค์กรที่สามารถสร้างสมดุลระหว่างประสิทธิภาพ ต้นทุน และความยั่งยืนก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน Tata Communications Vayu ไม่ได้เป็นเพียงผลิตภัณฑ์ แต่ยังบุกเบิกแนวทางใหม่เพื่อให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถบูรณาการ ลดความซับซ้อน และขับเคลื่อนนวัตกรรมให้ก้าวหน้า" 

Bhaskar Gorti รองประธานบริหาร ฝ่ายบริการคลาวด์และความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Tata Communications เสริมว่า "Tata Communications Vayu เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงระดับปฏิวัติวงการ องค์กรในปัจจุบันต้องการมากกว่าบริการคลาวด์พื้นฐาน และข้อเสนอล่าสุดของเราก็เป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์บทใหม่ในวิวัฒนาการของคลาวด์ ที่เทคโนโลยีไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป แต่เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดโอกาสอย่างไร้ขีดจำกัด" 

เยี่ยมชม ที่นี่ เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Tata Communications 

Tata Communications (NSE: TATACOMM) (BSE: 500483) ซึ่งอยู่ในเครือ Tata Group เป็นผู้ให้บริการระบบนิเวศดิจิทัลระดับโลก ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบันในกว่า 190 ประเทศและภูมิภาค บริษัทเป็นผู้นำที่ได้รับความไว้วางใจ โดยช่วยเหลือองค์กรทั่วโลกในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลด้วยโซลูชันการทำงานร่วมกันและเชื่อมต่อถึงกัน การเชื่อมต่อหลักและการเชื่อมต่อยุคใหม่ คลาวด์โฮสติ้งและโซลูชันความปลอดภัย ไปจนถึงบริการด้านสื่อต่าง ๆ บริษัทที่ติดอันดับฟอร์จูน 500 กว่า 300 รายเป็นลูกค้าของ Tata Communications ขณะเดียวกัน บริษัทยังเชื่อมโยงธุรกิจต่าง ๆ เข้ากับบริษัทคลาวด์ยักษ์ใหญ่ของโลก 80% ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tatacommunications.com 

ข้อความคาดการณ์อนาคตและคำเตือน

ถ้อยคำและถ้อยแถลงบางคำในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ที่เกี่ยวข้องกับ Tata Communications และแนวโน้มในอนาคตของบริษัท รวมถึงถ้อยแถลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับฐานะการเงินที่คาดการณ์ไว้ของ Tata Communications กลยุทธ์ทางธุรกิจ การพัฒนาในอนาคตด้านการดำเนินงานของ Tata Communications และเศรษฐกิจทั่วไปในอินเดีย ล้วนเป็นข้อความคาดการณ์อนาคตทั้งสิ้น ข้อความดังกล่าวเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงทั้งที่ทราบและไม่ทราบ ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่น ๆ รวมถึงปัจจัยด้านการเงิน กฎข้อบังคับ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรมและการคาดการณ์แนวโน้ม ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ ผลการดำเนินงาน หรือความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริงของ Tata Communications หรือผลลัพธ์ของอุตสาหกรรม แตกต่างอย่างมากจากที่แสดงหรือบอกเป็นนัยในข้อความคาดการณ์อนาคตดังกล่าว ปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้ผลลัพธ์ ผลการดำเนินงาน หรือความสำเร็จที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากข้อความคาดการณ์อนาคตดังกล่าว ได้แก่ ความล้มเหลวในการเพิ่มปริมาณการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายของ Tata Communications ความล้มเหลวในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสร้างกำไรที่ยอมรับได้ ความล้มเหลวในการทดสอบเชิงพาณิชย์สำหรับเทคโนโลยีและระบบข้อมูลใหม่เพื่อสนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ เช่น บริการส่งสัญญาณเสียง ความล้มเหลวในการรักษาเสถียรภาพหรือชะลอการลดลงของราคาสำหรับบริการสื่อสารบางประเภทของบริษัท ความล้มเหลวในการบูรณาการการเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์และการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายของรัฐบาลหรือกฎระเบียบของอินเดีย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับการบริหารอุตสาหกรรมของ Tata Communications ไปจนถึงภาวะเศรษฐกิจ ธุรกิจ และเครดิตโดยทั่วไปในอินเดีย ปัจจัยเพิ่มเติมที่อาจทำให้ผลลัพธ์ ผลการดำเนินงาน หรือความสำเร็จที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากข้อความคาดการณ์อนาคตดังกล่าวหลายประการมิได้อยู่ในการควบคุมของ Tata Communications ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดอยู่ที่ปัจจัยเสี่ยงที่ระบุในรายงานประจำปีของ Tata Communications Limited

อ่านรายงานประจำปีของ Tata Communications Limited ได้ที่ www.tatacommunications.com ทั้งนี้ Tata Communications ไม่มีข้อผูกมัดและปฏิเสธข้อผูกมัดใด ๆ อย่างชัดแจ้งในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงข้อความคาดการณ์อนาคต 

© 2025 Tata Communications Ltd. สงวนลิขสิทธิ์ 

TATA COMMUNICATIONS และ TATA เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของบริษัท Tata Sons Private Limited ในอินเดียและในบางประเทศ

โลโก้: https://mma.prnasia.com/media2/2268954/Tata_Communications_Logo.jpg?p=medium600