ซิชั่น พีอาร์ นิวส์ไวร์ - CISION PR Newswire
![]() |
เซินเจิ้น, จีน, 24 ก.พ. 2568 /PRNewswire/ -- ZTE Corporation (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแบบบูรณาการชั้นนำระดับโลก ได้รับการยกย่องอีกครั้งด้วยคะแนนระดับ A จาก CDP สะท้อนให้เห็นบทบาทความเป็นผู้นำด้านการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในการเปิดเผยข้อมูลประจำปี 2567 ของ CDP บริษัทฯ ทำคะแนนได้ระดับ A ในหลายหมวด ทั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประเภทที่ 1, 2 และ 3 โครงการริเริ่มเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม และการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงและโอกาสต่าง ๆ ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของ ZTE ในเรื่องความโปร่งใสด้านสิ่งแวดล้อม แนวปฏิบัติที่ยั่งยืน และขีดความสามารถหลักทางการแข่งขันในการพัฒนาอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ZTE again makes prestigious CDP A List for leading climate action, reinforcing global climate leadership
CDP เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลก โดยทำหน้าที่ดูแลระบบการเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับบริษัท เมือง รัฐ และภูมิภาคต่าง ๆ CDP มีฐานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และคะแนนจาก CDP ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายเพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุนและการจัดซื้อจัดจ้าง ในปี 2567 นั้น มีบริษัทมากกว่า 24,800 แห่ง หรือคิดเป็นสองในสามของมูลค่าตลาดทั่วโลก ได้รายงานข้อมูลผ่าน CDP เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ป่าไม้ และความมั่นคงด้านน้ำ โดยบริษัทที่อยู่ในอันดับ A ด้านสภาพภูมิอากาศนั้นหมายความว่า บริษัทเหล่านี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยการกำหนดกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งและดำเนินการอย่างกล้าหาญ
ZTE ในฐานะผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล อาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลหลัก ๆ ทั้ง 5G บิ๊กดาต้า การประมวลผลบนคลาวด์ และ AI ในการบุกเบิกเส้นทางดิจิทัลสีเขียว และเข้ามามีส่วนร่วมในการผลักดันเศรษฐกิจโลกสู่การลดการปล่อยคาร์บอน
ZTE again makes prestigious CDP A List for leading climate action, reinforcing global climate leadership
ในด้านการดำเนินงานสีเขียว ZTE ได้พัฒนาระบบแคมปัสอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการพัฒนาแบบคาร์บอนต่ำ ผ่านแนวทางการทำงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการวิจัยและพัฒนา และการผลิตสีเขียว ในปี 2567 นั้น บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยมลพิษหลายโครงการ ส่งผลให้ประหยัดไฟฟ้าได้ถึง 45 ล้าน kWh และลดการปล่อยคาร์บอนประเภทที่ 1 และ 2 ลงได้ถึง 13.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ของ ZTE ยังผลิตไฟฟ้าได้ 30 ล้าน kWh ต่อปี ขณะที่แอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นเองอย่าง "Carbon Visibility App" ครอบคลุมข้อมูลการปล่อยคาร์บอนในหมวดหมู่หลัก ๆ ได้ถึง 83%
ในด้านซัพพลายเชนสีเขียว ZTE ใช้โมเดล SMART เพื่อให้คำแนะนำในการลดคาร์บอนอย่างเป็นระบบใน 5 มิติด้วยกัน ได้แก่ กลยุทธ์ (Strategy) การจัดการ (Management) การบัญชี (Accounting) การลดการปล่อยมลพิษ (Reduction) และการส่งผ่าน (Transmission) โดยในปี 2567 บริษัทฯ ได้ให้คำแนะนำซัพพลายเออร์ 100 รายในการตรวจสอบคาร์บอนระดับองค์กร และช่วยซัพพลายเออร์ 10 รายในการกำหนดเป้าหมายและมาตรการลดคาร์บอน นอกจากนี้ ZTE ยังร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านสิ่งแวดล้อมกว่า 160 รายทั่วโลก เพื่อสร้างเครือข่ายรีไซเคิลสีเขียวในระดับโลก
ในด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสีเขียว โซลูชันสีเขียวแบบครบวงจรของ ZTE นั้นมีผู้นำไปใช้ในเครือข่ายมากกว่า 30 แห่งทั่วโลก ครอบคลุมสถานีมากกว่า 1.5 ล้านแห่ง และตู้ศูนย์ข้อมูล 250,000 ตู้ ช่วยให้ผู้ให้บริการทั่วโลกประหยัดไฟฟ้าได้กว่า 1 หมื่นล้าน kWh ต่อปี ในปี 2567 นั้น ผลิตภัณฑ์ระบบของบริษัทฯ สามารถลดความเข้มข้นทางกายภาพในช่วงการใช้งานและบำรุงรักษาลงได้ 8.39% ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ปลายทางสามารถลดการปล่อยมลพิษตลอดวงจรชีวิตลงได้ 5.02% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทั้งนี้ ณ ปี 2567 ZTE ได้ประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ 154 รายการ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทุกประเภท
ในด้านการยกระดับนวัตกรรมสีเขียว ZTE ใช้สถาปัตยกรรม "Digital Nebula" และโซลูชันคลาวด์-เครือข่ายสีเขียวที่มีความแม่นยำ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ความยั่งยืน โดยบริษัทฯ ร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมกว่า 2,000 ราย และได้นำแนวปฏิบัติ 5G+ ที่มีความก้าวล้ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปใช้ใน 15 ภาคส่วนสำคัญ รวมถึงอุตสาหกรรมเหล็ก การผลิตอิเล็กทรอนิกส์ การขนส่ง และพลังงาน ความพยายามเหล่านี้นำไปสู่การสร้างสถานการณ์การใช้งานที่มีความล้ำหน้ารวมกว่า 100 รูปแบบ พร้อมเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และลดการปล่อยมลพิษในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
ZTE รับบทบาทผู้นำด้านการพัฒนาอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวของ ZTE ตามเกณฑ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของ SBTi ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน 2567 ทำให้ ZTE เป็นบริษัทเทคโนโลยี ICT รายใหญ่แห่งแรกของจีนที่ได้รับการรับรองจาก SBTi ทั้งสองด้าน ทั้งยังได้รับการจัดอันดับ A จาก CDP ด้านความเป็นผู้นำทางสภาพภูมิอากาศติดต่อกันเป็นปีที่สองด้วย
นอกจากนี้ ZTE ยังคว้ารางวัล EcoVadis Gold Medal เพื่อยกย่องความเป็นเลิศด้านความยั่งยืนด้วย โดยติดอันดับ 4% แรกของบริษัททั่วโลก และ 2% แรกในกลุ่มอุตสาหกรรมอุปกรณ์สื่อสาร มากไปกว่านั้น ZTE ยังได้รับคัดเลือกเข้าดัชนี FTSE4Good Index Series ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 และได้รับเลือกเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของดัชนี Hang Seng Corporate Sustainability Index Series เป็นปีที่ 13 บริษัทฯ ยังกวาดรางวัลจากงาน BDO ESG Awards 2024 ครั้งที่ 6 ไปได้ถึงสองรางวัลด้วย ได้แก่ "Theme Award" และ "Outstanding ESG Performance of H-Share Companies"
ในอนาคตข้างหน้านั้น ZTE ยังคงมุ่งมั่นที่จะผลักดันการริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมผนึกกำลังกับพันธมิตรทั่วโลกในการสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนและปล่อยคาร์บอนต่ำ และขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัลเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
สื่อมวลชนติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ZTE.press.release@zte.com.cn
แสดงความคิดเห็น :